ปี 2566 นับเป็นปีที่หนักหน่วงอีกปีหนึ่งของธุรกิจหลังจากโรคระบาดโควิด 2019 ได้คลี่คลายลง เพราะยังคง มีปัจจัยภายนอกที่กดดันธุรกิจรอบด้าน เริ่มตั้งแต่ภาวะสงครามที่ร้อนแรงระหว่างรัสเซียและยูเครน จนถึงศึกระหว่าง อิสราเอลและกลุ่มปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ในภาคการเงินภาวะดอกเบี้ยตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นและการเติบโตของ เศรษฐกิจไทยที่อ่อนตัวลง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจในประเทศไทยทั้งสิ้น และธุรกิจของบริษัทฯก็ไม่อยู่ เหนือปัจจัยกดดันรอบด้านเหล่านี้ การเข้าควบคุมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ ที่เริ่ม มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ซึ่งผลกระทบหลัก ได้แก่ การลดเพดานดอกเบี้ยรับจากการปล่อยสินเชื่อ เช่าซื้อ ยิ่งมีส่วนเร่งให้ธุรกิจของบริษัทต้องรีบปรับตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ

อย่างไรก็ตามบริษัทฯของเราก็สามารถดำเนินธุรกิจและประสบความสำเร็จได้อย่างดี ทั้งในแง่ของกำไรสุทธิ และ ขนาดของธุรกิจที่เติบโตใหญ่ขึ้นมากในปีที่ผ่านมา พร้อมกับการควบคุมคุณภาพหนี้อย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อ เน้นความมั่นคงของการลงทุน ให้กับผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทุกท่าน

ฐานะการเงินและผลประกอบการโดยรวม

ตลอดปี 2566 บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในด้านการควบคุมคุณภาพหนี้ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ในภาวะตลาดที่มีการแข่งขัน ช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดอย่างร้อนแรง บริษัทฯมีการพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้ง เทคโนโลยี และ Data Analytics ต่างๆที่จะทำให้บริษัทฯสามารถประเมินสถานการณ์และผลประกอบการได้แม่นยำ ยิ่งขึ้น มีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้บุคลากรของบริษัทฯมีคุณภาพสูงสุดในตลาดเพื่อ เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและการรองรับธุรกิจใหม่ๆ

ในปี 2566 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการครองแชมป์อันดับ 1 ในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ใหม่ป้ายแดง พร้อมกับคุณภาพของสินเชื่อที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยที่บริษัทฯมียอดสินเชื่อคงค้างทั้งจากพอร์ต ลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อส่วนบุคคล เติบโตสูงมากขึ้นกว่าร้อยละ 60 ณ สิ้นปี 2566 ที่ยอด ลูกหนี้คงค้าง กว่า 33,000 ล้านบาท และในไตรมาส 4 บริษัทฯได้เสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการขยายธุรกิจของ บริษัทฯไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อในระดับที่น่าพอใจ บริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถขยาย ธุรกิจ และเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้บริษัทฯได้

แนวโน้มธุรกิจในปี 2567

บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า การปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2566 และการให้ความสำคัญกับ คุณภาพของลูกหนี้ จะช่วยให้บริษัทฯครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ใหม่อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งการขยายตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ จะช่วยสร้างความสมดุล ให้กับพอร์ต สินเชื่อของบริษัท นอกจากนี้บริษัทฯจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจของบริษัทฯ ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน

ในนามคณะกรรมการบริษัทฯ และ คณะผู้บริหารตลอดจนพนักงานทุกระดับ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้น นักลงทุน ลูกค้า พันธมิตรดีลเลอร์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีตลอดมา และหวังว่าปี 2567 จะเป็นอีกปีที่เราทุกคนจะมองย้อนไปด้วยความภูมิใจ